วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Defragment

เครื่องคอมฯ ของคุณๆทุกวันนี้เต็มไปด้วยไฟล์มากมาย และคุณๆ ก็ใช้มันอย่างสนุกสนาน ทั้งลบทั้งบันทึกลงฮาร์ดดิสก์ไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งคอมฯ ของก็มีอาการอืดอาด อ่านเขียนช้า นั้นเป็นอาการที่จะบอกให้คุณทราบว่า คุณควรจัดการชำระล้างพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ด้วยการ Disk Cleanup และทำการ Defragment

แต่เชื่อได้เลยว่ามีคนไม่อีกคนที่จะนึกถึงการ Defragment หรืออดทนรอให้วินโดว์ส ทำการ Defragment จนจบ ซึ่งความจริงแล้วการ Defragment นั้นจะช่วยเพิ่มความสามารถในการบูตเครื่องได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และยังช่วยลดเวลาในการเรียกหรือโหลดโปรแกรมต่างๆ อีกด้วย สำหรับวินโดว์สทุกเวอร์ชั่นจะมีเครื่องมือสำหรับการ Defragment มาอยู่แล้วโดยไปตามเมนูนี้

Start > All Programs > Accessories > System Tools > Disk Defragmenter



ใน การทำงานของ Disk Defragment มันจะทำการเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ให้แต่ละไฟล์มีการต่อเนื่องกัน แต่บางครั้งจะมีโปรแกรมต่างๆ ที่รันอยู่ส่งผลให้โปรแกรมเกิดการสับสนในการทำงาน และเมื่อการสับสนมีมากพอ Disk Defragment จะวนการทำงานกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง นั้นเป็นสาเหตุว่าเมื่อคุณๆ ทำ Defragment แล้วยังวนอยู่ที่ 5 เปอร์เ็ซ็นต์บ้าง 10 เปอร์เซ็นต์บ้าง วนอยู่เป็นชั่วโมงไม่ไปไหนสักที

วิธี แก้ไข คือ คุณต้องปิดโปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่องทั้งหมด รวมไปถึง System Background ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังด้วย ถ้าปิดโปรแกรมธรรมดาทั่วไป ผู้ใช้คอมฯ ทั่วๆไปก็สามารถทำได้ แต่นี้ปิดเป็นระบบ System จะทำอย่างไรดีหล่ะ จะปิดตัวไหนบ้างหล่ะและวิธีปิดจะปิดอย่างไร วิธีปิดเครื่องอย่างถูกวิธีเพื่อการ Defragment ก็คือ การเข้าสู่ Safe Mode แล้วจึงค่อยทำการ Defragment

ขั้นตอนในการเข้า Saft Mode ไม่ยากครับ สำหรับ Windows XP

1.รีบูตเครื่องคอมฯ

2. ในขณะที่เครื่องกำลังบูตผ่านหน้าจอ Bios ที่แสดงการทำงานของหน่วยความจำ ให้คุณกดปุ่ม ไปเรื่อยๆ จนเข้าหน้าจอ Windows Advance Option Menu

3.ที่หน้าจอ Windows Advance Option Menu ให้เลือกการบู๊ตแบบ Saft Mode

4. เมื่อเข้าสู่วินโดว์สแล้ว ให้คลิกเมนู Start > All Programs > Accessories > System Tools > Disk Defragmenter หรือคุณจะเปิด My Computer แล้วคลิกขวาที่ไดรว์ที่คุณต้องการ Defragment แล้วไปที่ Properties เลือกที่ Tools แล้วไปที่ Defragmentation แล้วคลิกที่ Defragment New

5.ที่นี่ก็ปล่อยให้เครื่องทำงานไป จนกว่าจะเสร็จ ต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ เพราะขนาดของฮาร์ดดิสก์มีผลต่อระยะเวลาทำงานด้วย แต่ถ้าคุณทำ Defragment บ่อยครั้งๆ ต่อๆไปจะใช้เวลาน้อยลง (ปกติผมจะทำ Defragment อย่างน้อยเดือนละครั้ง ขึ้นอยู่กับการใช้โปรแกรมต่างๆด้วย)

ประเภทของ file


ประเภทของไฟล์ หรือ นามสกุลของไฟล์จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นไฟล์อะไร สามารถใช้โปรแกรมอะไรเปิดได้บ้าง การเรียนรู้ หรือเข้าใจประเภทของไฟล์ต่าง ๆ ย่อมจะมีส่วนช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลักษณะของนามสกุลของไฟล์จะอยู่หลังชื่อ เช่น Readme.txt นามสกุลของไฟล์คือ .txt เป็นต้น

.asp = Active Server Page ไฟล์ คือไฟล์เอกสาร asp สำหรับดูบนเว็บ คล้ายกับเอกสาร htm, html Text Editor ทั่วไป
.avi = Video ไฟล์ คือไฟล์ภาพยนตร์ ภาพเคลื่อนไหว Windows Media Player,Quick Time, ACDsee เวอร์ชั่นใหม่ๆ
.bak = Back up ไฟล์ คือไฟล์สำรองของโปรแกรมทั่วไป ขึ้นอยู่กับว่าสร้างโดยโปรแกรมอะไร
.bat = Batch ไฟล์ คือ text ไฟล์ที่บรรจุชุดคำสั่งลงไป ทำงานโดยเรียกโปรแกรมอื่น ๆ
.bmp = Bitmap ไฟล์ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เพื่อแสดงผลภาพกราฟฟิคโปรแกรมวินโดวส์ ไม่มีการบีบอัด ไฟล์จึงมีลักษณะใหญ่ เป็นไฟล์ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในด้านการใช้งานมากนัก
.cda = เป็นแทร็กเสียงดิจิตอลที่รูปแบบเหมือนกับไฟล์ Wave บรรจุไว้ในแผ่นซีดีเพลงด้วยรูปแบบพิเศษเฉพาะ ซึ่งมันไม่ใช่ไฟล์ข้อมูลคอมพิวเตอร์อย่าง Wave หรือ MP3 คุณจึงไม่สามารถก๊อบปี้แทร็ก CD Audio เก็บไว้ในฮาร์ดิสก์ได้
.com = Execute ไฟล์ คือไฟล์โปรแกรมที่สามารถรันได้ ทำงานได้ตัวมันเอง
.dat = ไฟล์ภาพยนตร์แผ่นจาก VCD หรืออาจเป็นไฟล์ของโปรแกรมอื่นๆ อีกด้วย Power DVD,Windows Media Player และ อื่นๆ อีกมาก
.dbf = Database ไฟล์ คือไฟล์ฐานข้อมูล Dbase,Foxpro, Access,Excel
.divx = เป็นไฟล์ avi ชนิดหนึ่ง แต่ไฟล์ DivX สามารถเล่นพร้อมกับเลือกแสดง Subtitle ได้หลายภาษาในการเล่นไฟล์ประเภทนี้ จะต้องติดตั้งโปรแกรมแสดง subtitle เพิ่มเติม เพื่อให้ subtitleปรากฏไปพร้อม ๆ กับการรับชมภาพยนตร์ด้วย
.doc = Document ไฟล์ คือไฟล์เอกสาร word MS Word, WordPAD
.dwg = คือ drawing file ของโปรแกรม AutoCAD
.exe = Execute ไฟล์ คือไฟล์โปรแกรมที่สามารถรันได้ ทำงานได้ตัวมันเอง
.fla = เป็นไฟล์ Vector ของโปรแกรม Macromedia Flash ใช้ในการสร้างอนิเมชั่นบนเวบเพจ
.fly = เป็นไฟล์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายบนเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอผ่านเว็บไซต์ แต่คุณภาพดีกว่ไฟล์3gp
.gif = ไฟลภาพที่สามารถแสดงเปนภาพเคลื่อนไหวได้ เหมาะกับการเก็บไฟล์รูปภาพขนาดเล็ก และมีจำนวนของสีน้อย มีขนาดไฟล์เล็ก
.hqx = ไฟลที่แสดงผลในเครื่องMac
.htm, html = เอกสาร Hypertext Markup Language สำหรับดูบน web site ทั่วๆ ไป Browser เช่น Netscape, IE, Opera และ Browser อื่นๆ รวมทั้งโปรแกรม Text Editor ทั่วไป
.ini = INI ไฟล์ คือไฟล์ configuration ของ windows NotePad, Wordpad, Editor ทั่วไป
.jpg, .Jpeg = ไฟลภาพในรูปแบบที่ถูกบีบอัดใหมีขนาดไฟลเล็กลงมีความละเอียดในเกณฑที่ดีเหมาะกับภาพถาย
.lnk = Link ไฟล์ ลิงค์ไฟล์ของ MS Windows MS Windows
.log = Log ไฟล์ คือไฟล์ที่เก็บการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง NotePad, WordPad, Editor ทั่วไป
.mid = MiDi ไฟล์ ไฟล์เพลงที่มีแต่เสียงดนตรี เป็นไฟล์ข้อมูลดนตรีที่ถูกบันทึก หรือโปรแกรมเอาไว้เช่น เสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ตัวโน๊ต ความเร็วจังหวะ ฯลฯ สำหรับนำไปใช้กับอุปกรณ์ดนตรี เช่น ซาวนด์การ์ด หรือ เครื่องดนตรี, Winamp, Sonique, Windows Media Player และอื่นๆ
.mov = ไฟลวิดีโอ ที่แสดงผลดวยโปรแกรมQuick Time
.mp3 = MP3 ไฟล์ เป็นไฟล์เพลงประเภทหนึ่ง เป็นไฟล์เสียงที่มีพื้นฐานจากไฟล์ Wave แต่มีขนาดเล็กกว่าประมาณ 8-10 เท่า เนื่องจากข้อมูลในไฟล์ถูกบับอัดให้เล็กลงแต่ยังคงคุณภาพไว้ใกล้เคียงต้นฉบับโปรแกรมที่ใช้เปิดก็มี Winamp, Sonique, Windows Media Player และอื่นๆ
.mp4 = MP4 ไฟล์ เป็นประเภทของไฟล์วีดีโอ เป็นไฟล์วีดีโอที่มีพื้นฐานจากไฟล์ Avi แต่มีขนาดเล็กกว่า เนื่องจากข้อมูลในไฟล์ถูกบับอัดให้เล็กลงแต่ยังคงคุณภาพไว้ใกล้เคียงต้นฉบับ
.ogg = OGG ไฟล์ เป็นไฟล์เพลงประเภทหนึ่ง ที่มีขนาดเล็กกว่า MP3 Winamp, Sonique, FreeAmp
.pdf = PDF ไฟล์ เป็นไฟล์ขนาดเล็ก คุณภาพสูงจากค่าย Adobe ใช้ในการแสดงเอกสารในรูปแบบของกราฟฟิค ซึ่งจะต้องใช้ โปรแกรม Adobe Acrobat Reader ในการอ่าน
.png = ไฟลรูปภาพที่นิยมใชสรางเว็บไซตเนื่องจากมีขนาดเล็ก และเหมาะกับภาพที่ตองการใหมีความโปรงใส
.ppt = Powerpoint ไฟล์ เป็นไฟล์พรีเซ็นเทชั่น MS Powerpoint
.prg = Program ไฟล์ เป็น Text ไฟล์ประเภทหนึ่ง NotePad, WordPad หรือ text editor ต่างๆ
.psd = PSD ไฟล์ เป็นกราฟฟิคไฟล์ ของโปรแกรมตบแต่งรูปภาพ (Retuching) ยอดนิยม Adobe Photoshop
.rar = ไฟล์ที่ถูกบีบอัดข้อมูลใช้โปรแกรม Winzip, Pkzip, Winrar ในการเปิด
.ra = เป็นไฟล์เสียงสำหรับใช้กับโปรแกรม Real Player โดยเฉพาะ มีพื้นฐานมาจากไฟล์ Wave แต่ถูกบีบอัดให้เล็กลงด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ เพื่อใช้ในการรับส่งข้อมูลเสียง ทางอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก
.rm, .rmv = คือไฟลวิดีโอ ที่แสดงผลดวยโปรแกรม Real Player
.scr = Screen Saver ไฟล์ คือไฟล์โปรแกรมพักหน้าจอ MS Windows
.swf = Flash File ภาพเคลื่อนไหว ของค่าย Macromedia Macromedia Flash และโปรแกรมอื่นๆ ที่ support เป็นการพับลิชไฟล์ให้เปน Flash Movie
.tif = Tiff ไฟล์ เป็นกราฟฟิคไฟล์ที่สร้างมาเพื่อ โปรแกรมประเภทจัดหน้าหนังสือ (Desktop Publishing) สามารถเก็บข้อมูล รายละเอียดของภาพได้ค่อนข้างมาก
.txt = Text ไฟล์ ธรรมดา NotePad, WordPad, Word หรือ text editor ต่างๆ
.wav = Wave ไฟล์ เป็นไฟล์เพลงประเภทหนึ่ง Winamp, Sonique, Windows Media Player และอื่นๆ
.wma = Windows Media Audio เป็นไฟล์เสียงดิจิตอลรูปแบบใหม่กว่า MP3 จาำำกไมโครซอร์ฟ มีการบีบอัดดีกว่า ทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กกว่า MP3 โดยมีคุณสมบัติทั่วไปเหมือนกับ MP3
.xls, xlw = Excel ไฟล์ คือไฟล์ตารางข้อมูล MS Excel
.xvid = เป็น Open Source มีรูปแบบการบีบอัดบนพื้นฐานของ mp4 เหมือนกับ DivX
.zip = Zip ไฟล์ คือไฟล์ที่ถูกบีบอัดข้อมูล Winzip, Pkzip, Winrar
.3gp = เป็นไฟล์วีดีโอแบบดิจิตอลรูปแบบใหม่กว่า และมีขนาดเล็กกว่าเดิมมาก คุณภาพของภาพจึงไม่คมชัดมากนัก

DDR4

หลังจากมีการเปิดตัว DDR3 ไปแล้วอีกไม่นานเราคงมีโอกาศได้ใช้ DDR4กัน ลองมาดูกันว่า DDR4คืออะไร

DDR4 หรือเรียกกันเต็มๆ ว่า DDR4 SDRAM (Double-Data-Rate four Synchronous Dynamic Random Access Memory)

ลำดับขั้นการพัฒนา
SDR SDRAM -> DDR SDRAM -> DDR2 SDRAM -> DDR3 SDRAM -> DDR4 SDRAM

ตาม ทฤษฎีแล้ว DDR4 สามารถรับส่งข้อมูลได้ที่สัญญาณนาฬิกา (Clock) ที่ 1600-3200 MHz เมื่อเทียบกับ DDR3 (800-1600 MHz), DDR2 (400–800 MHz) และ DDR (200–400 MHz)

ตารางเปรียบเทียบรายละเอียดของ DDR, DDR2 และ DDR3 ครับ ส่วน DDR4 ยังไม่มีข้อมุลมาเปรียบเทียบ


รูปแสดงการทำงานพื้นฐานของ DDR2 และ DDR3 คงเดาได้ไม่ยากว่า DDR4 จะพัฒนาไปในรูปแบบใด


ตารางคาดการออกสู่ตลาดของ RAM DDR3


ดูจากตาราง เราก็คาดเดาได้ว่า RAM DDR4 น่าจะเปิดตัวหลังปี 2010

อันนี้กราฟการพยากรณ์อนาคตการแทนที่ของ RAM ชนิดต่างๆ ที่ผ่านมา

3G


ตอนนี้คงไม่มีใครไม่เคยได้ยิน เทคโนโลยี 3G กันแน่นอน ลองมาศึกษาดูลายละเอียดกันนะ ว่า3Gคืออะไร
3G หรือ Third Generation เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคที่ 3 อุปกรณ์การสื่อสารยุคที่ 3 นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่ผสมผสาน การนำเสนอข้อมูล และ เทคโนโลยีในปัจจุบันเข้าด้วยกัน เช่น PDA โทรศัพท์มือถือ Walkman, กล้องถ่ายรูป และ อินเทอร์เน็ต

3G เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องจากยุคที่ 2 และ 2.5 ซึ่งเป็นยุคที่มีการให้บริการระบบเสียง และ การส่งข้อมูลในขั้นต้น ทั้งยังมีข้อจำกัดอยู่มาก การพัฒนาของ 3G ทำให้เกิดการใช้บริการมัลติมีเดีย และ ส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายด้วยอัตราความเร็วที่สูงขึ้น

ลักษณะการทำงานของ 3G เมื่อเปรียบเทียบเทคโนโลยี 2G กับ 3G แล้ว 3G มีช่องสัญญาณความถี่ และ ความจุในการรับส่งข้อมูลที่มากกว่า ทำให้ประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลแอพพลิเคชั่น รวมทั้งบริการระบบเสียงดีขึ้น พร้อมทั้งสามารถใช้ บริการมัลติมีเดียได้เต็มที่ และ สมบูรณ์แบบขึ้น

เช่น บริการส่งแฟกซ์, โทรศัพท์ต่างประเทศ ,รับ-ส่งข้อความที่มีขนาดใหญ่ ,ประชุมทางไกลผ่านหน้าจออุปกรณ์สื่อสาร, ดาวน์โหลดเพลง, ชมภาพยนตร์แบบสั้นๆ เทคโนโลยี

3G น่าสนใจอย่างไร

จากการที่ 3G สามารถรับส่งข้อมูลในความเร็วสูง ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้ อย่างรวดเร็ว และ มีรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ประกอบกับอุปกรณ์สื่อสารไร้สายในระบบ 3G สามารถให้บริการระบบเสียง และ แอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่

เช่น จอแสดงภาพสี, เครื่องเล่น mp3, เครื่องเล่นวีดีโอ การดาวน์โหลดเกม, แสดงกราฟฟิก และ การแสดงแผนที่ตั้งต่างๆ ทำให้การสื่อสารเป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่สร้างความสนุกสนาน และ สมจริงมากขึ้น

3G ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายและคล่องตัวขึ้น โดย โทรศัพท์เคลื่อนที่เปรียบเสมือน คอมพิวเตอร์แบบพกพา, วิทยุส่วนตัว และแม้แต่กล้องถ่ายรูป ผู้ใช้สามารถเช็คข้อมูลใน account ส่วนตัว เพื่อใช้บริการต่างๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น self-care (ตรวจสอบค่าใช้บริการ), แก้ไขข้อมูลส่วนตัว และ ใช้บริการข้อมูลต่างๆ เช่น ข่าวเกาะติดสถานการณ์, ข่าวบันเทิง, ข้อมูลด้านการเงิน, ข้อมูลการท่องเที่ยว และ ตารางนัดหมายส่วนตัว “Always On”

คุณสมบัติหลักของ 3G คือ

มีการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายของ 3G ตลอดเวลาที่เราเปิดเครื่องโทรศัพท์ (always on) นั่นคือไม่จำเป็นต้องต่อโทรศัพท์เข้าเครือข่าย และ log-in ทุกครั้งเพื่อใช้บริการรับส่งข้อมูล

ซึ่งการเสียค่าบริการแบบนี้ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลผ่านเครือข่ายเท่านั้น โดยจะต่างจากระบบทั่วไป ที่จะเสียค่าบริการตั้งแต่เราล็อกอินเข้าในระบบเครือข่าย อุปกรณ์สื่อสารไร้สายระบบ 3G สำหรับ 3G อุปกรณ์สื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่โทรศัพท์เท่านั้น แต่ยังปรากฏในรูปแบบของอุปกรณ์ สื่อสารอื่น เช่น Palmtop, Personal Digital Assistant (PDA), Laptop และ PC

anit virus

วันนี้มีตัวอย่างโปรแกรม anti virus ดีๆมาฝากกัน

ThreatFire  AntiVirus Free Edition 3


ThreatFire AntiVirus Free Edition 3

โปรแกรมน้องใหม่มาแรงจากค่าย PC Tools ที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักทดสอบ ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี สามารถตรวจจับไวรัส, หนอนอินเตอร์เน็ต โทรจัน, รูทคิต, สปายแวร์, แอดแวร์, บัฟเฟอร์โอเวอร์โฟว์ และ มัลแวร์ ได้ โดยในโปรแกรมเวอร์ชันฟรีจะติดต่อกับทางผู้ผลิตในกรณีที่เกิดปัญหาผ่านทางอี เมล์เท่านั้น และไม่สามารถอัพเกรดเอนจี้ของโปรแกรมได้

หากจ่ายเงิน 14.95 เหรียญสหรัฐฯ เพื่ออัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นเป็น Pro คุณจะสามารถโทรคุยและแชตกับฝ่าย Technical Support ได้ รวมไปถึงการได้ฟังก์ชันการใช้งานขั้นสูงของโปรแกรม จุดที่สำคัญหากคิดจะใช้โปรแกรมนี้คือ เครื่องคุณจะต้องแรงพอ เนื่องจากโปรแกรมค่อนข้างจะดึงเครื่องพอสมควร

PC Tools Antivirus Free Edition

PC Tools Antivirus Free Edition

จากการโหวตของเว็บไซต์ download.com โปรแกรมนี้น่าจะเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสฟรีที่น่าสนใจมากในตอนนี้ เพราะสามารถตรวจสอบไวรัสได้แบบเรียลไทม์ รวมไปถึงความสามารถในการสแกนไฟล์อินเทอร์เน็ต อีเมล์ มีอินเทอร์เฟซในการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก หากเพิ่มเงิน 29.95 เหรียญสหรัฐฯ คุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังได้รับระบบการอัพเดตข้อมูลไวรัสที่รวดเร็วมากขึ้น

Avira AntiVir  Personal Edition Classic


Avira AntiVir Personal Edition Classic

โปรแกรมสัญลักษณ์ร่มแดงนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งนได้ง่ายและฟรี ซึ่งถูกใจหลายๆ คนมีระบบการป้องกันไวรัสที่ดี อัพเดทข้อมูลไวรัส เอนจี้ และข้อมูลโปรแกรมใหม่ๆ แบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีการมอนิเตอร์ระบบแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่ข้อมูลเริ่มเข้ามาในเครื่อง ใช้เทคโนโลยีการกำจัดไวรัสที่ทันสมัย ไม่กั๊กสำหรับใช้ในเวอร์ชั่นจ่ายตังค์เหมือนค่ายอื่นๆ

นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถตั้งตารางการสแกนและการอัพเดตโปรแกรมได้เอง พร้อมบริการสอบถามข้อมูลและปัญหาผ่านเว็บไซต์และเว็บบอร์ด


Avast Home Edition

Avast Home Edition

โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ได้รับการรับรองจาก ICSA Lab และ Checkmark แม้ว่าหน้าตาอินเตอร์เฟซจะแปลกๆ คล้ายโปรแกรม Winamp แต่ก็ดูทันสมัยดี สามารถตรวจสอบอีเมล์ เน็ตเวิร์ก ไฟล์ แบบ P2P ละไฟล์วอลล์เล็กๆ แถมให้ด้วย


AVG Antiviru

AVG Antivirus Free Edition

โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยยอดดาวโหลดใน download.com สูงถึง 61 ล้านครั้ง และได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ มากมาย ด้วยโปนแกรมที่มีขนาดเล็กติดตั้งง่าย ใช้งานไม่ยาก ทำงานได้เร็ว การอัพเดตข้อมูลไวรัสก็รวดเร็วและมรประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี จึงไม่แปลกใจที่โปรแกรมนี้จะได้รับความนิยมมากขนาดนี้

windows 7

Windows 7 ได้รับการออกแบบและปรับปรุงจากคำติชมของผู้ใช้เป็นสำคัญ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ต่างมองว่าจุดเด่นของระบบปฏิบัติการที่ดีนั้นคือ การมีพีซีที่ใช้ง่าย ทำงานเร็ว และคิดแทนผู้ใช้ได้อย่างชาญฉลาด ดังนั้น ใน Windows 7 นี้เราจึงได้ปรับแต่งกลไกและฟีเจอร์ต่างๆ หลายร้อยจุดจนต้องบอกว่ามีหลายฟีเจอร์ที่คุณอาจคาดไม่ถึงว่า Windows 7 จะทำได้หากคุณได้ต้องการทดลองใช้ซอฟต์แวร์รุ่น Release Candidate นี้




รวดเร็วและใช้ง่าย

Windows 7 ได้รับการออกแบบและปรับปรุงจากคำติชมของผู้ใช้เป็นสำคัญดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่คุณพบนั้นจะเป็นสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการทำให้คุณในฐานะผู้ใช้จัดการงานประ
จำวันได้รวดเร็วและง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งออกแบบให้พีซีของคุณทำงานโดนใจอย่างที่คุณต้องการตลอดจนทำให้พีซีของคุณทำในสิ่งใหม่ที่คุณต้องทึ่งและประทับใจทั้งหมดเกิดจากเสียงของผู้ใช้ อย่างคุณที่ต้องการใช้งานพีซีพร้อมระบบปฏิบัติการชั้นยอด

ทำงานโดนใจ
ใน Windows 7 คุณจะได้เห็นหลายๆ สิ่งที่คุณเฝ้ารอและคาดหวังมาโดยตลอดสำหรับ Windows นั่นคือการทำให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องทำงานได้ในลักษณะที่คุณต้องการ และยังต้องการให้พีซีของคุณทำสิ่งใหม่ๆ ได้ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังดำเนินการ ดูว่าคำร้องขอของคุณกลายเป็นจริงได้อย่างไร



ประสบการณ์ใหม่ๆ
ใน Windows 7 คุณจะได้เห็นหลายๆ สิ่งที่คุณเฝ้ารอและคาดหวังมาโดยตลอดสำหรับ Windows นั่นคือการทำให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องทำงานได้ในลักษณะที่คุณต้องการ และยังต้องการให้พีซีของคุณทำสิ่งใหม่ๆ ได้ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังดำเนินการ ดูว่าคำร้องขอของคุณกลายเป็นจริงได้อย่างไร


from http://windows7thailand.com/

วิวัฒนาการของ โปรแกรม chat


ปัจจุบัน การ Chat online คงมีความสำคัญกับชาวโลก cyber อย่างเราๆไม่น้อย วันนี้เราก็มีลายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับวิวัดนาการ ของโปราแกรม chat ลองมาดูกันว่า กว่าทุกอย่างจะครบวงจรขนาดนี้ จุดเริ่มต้นคืออะไร

Chat เป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้ internet เป็น โปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ปฏิสัมพันธ์กัน พูดคุยกันในเรื่องที่ตนเองสนใจ หรือมีความต้องการตรงกัน แต่ในขณะเดียวกัน ภัยจากการใช้เทคโนโลยีตัวนี้ก็มีวิวัฒนาการตามไปด้วย เช่นการกระทำอนาจาร การเผยแพร่ภาพลามก หรือขนาดการขายบริการทางเพศผ่าน การให้บริการทาง Chat เราสามารถจัดยุค และประเภทของภัยคุกคามที่เกิดขึ้น ตามมาได้ดังนี้

ยุคที่หนึ่ง

ยุคของการกำหนด internet นับตั้งแต่โลกของ internet กำเนิดขึ้น ระบบปฏิบัติการในยุคแรกๆของการเชื่อมโยงเครือข่าย คือระบบปฏิบัติการ Unix ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานกับเครือข่าย internet การเชื่อมโยงเครือข่ายเข้าสู่ในยุคแรก จะใช้ modem ใน เชื่อมต่อเข้าสู่โครงข่าย ซึ่งข้อจำกัดของเทคโนโลยีในยุคแรกๆ คือ ความเร็วในการส่งข้อมูลของสื่อสัญญาณ ขนาดของเนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูล ความเร็วในการประมวลผลของตัว CPU การเชื่อมต่อจะเป็นไปใน ลักษณะ ระหว่างโครงข่ายด้วยกันเอง เช่น การเชื่อมต่อระหว่างมหาวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยอื่น การติดต่อสื่อสาร เพื่อสื่อสารระหว่างกันนั้นจะใช้ Protocol IRC ซึ่งเป็น Protocol ที่ทำขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางในการสื่อสารขึ้นมา ผู้ใช้งานจะพิมพ์ข้อความในลักษณะ Text Mode แล้วผู้ใช้งานต้องมีความเข้าใจในคำสั่งพื้นฐานในการส่งข้อความ

ภัยจากเทคโนโลยีในยุคแรกๆนี้ จะเป็นเพียงแค่การ Hack ข้อมูลระหว่างกัน เนื่องจากการใช้งานที่มีอยู่จำกัด ภัยต่างๆ จึงไม่ค่อยมีการขยายตัว

ยุคที่สอง

ยุคของโปรแกรมเสมือน นับตั้งแต่ บริษัท Apple ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Mac OS ขึ้นมาเพื่อใช้งานกับเครื่อง แมคอินทอร์ช ซึ่งมีการพัฒนาโปรแกรมในลักษณะเป็น Virtual ซึ่งเป็นรูปแบบโปรแกรมเสมือน คือการใช้ภาษาภาพเพื่อสื่อความหมายให้ผู้ใช้งานเข้าใจและสั่งงานได้ ผิดจากระบบปฏิบัติการ Dos ในยุคต้นๆที่ผู้ใช้งานต้องเข้าใจคำสั่งพื้นฐานในการใช้งาน ซึ่งเป็นการใช้งานในรูปแบบ Text Mode ซึ่งระบบปฏิบัติการแบบ Virtual นี้ บริษัท Microsoft ได้นำไปพัฒนาต่อจนได้รับความนิยม ในชื่อระบบปฏิบัติการ Windows

การพัฒนาโปรแกรม Chat ในยุคนี้ก็มีการพัฒนาไปในลักษณะรูปแบบ Virtual โปรแกรมที่นิยมใช้งานกัน ได้แก่ โปรแกรม IRC, Pirch98, ICQ, MSN, Yahoo Messenger ซึ่งการใช้งานเราสามารถแบ่งลักษณะการใช้งานได้อีกดังนี้

- โปรแกรมที่สามารถมี Server อิสระได้ ได้แก่โปรแกรม IRC, Pirch98 โปรแกรมในลักษณะนี้จะใช้ Protocal IRC เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อ ผู้ใช้งานสามารถตั้ง Server ของ ตัวเองได้ในการเชื่อมการติดต่อสื่อสาร และสามารถสร้างห้องสนทนาขึ้นมาได้เองอิสระตามความต้องการและความสนใจ ผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ก็จะเข้ามาพิมพ์ข้อความสื่อสารกันในเรื่องที่ตนเองสนใจ ผู้สนทนาสามารถสนทนาในห้องใหญ่ได้ หรือว่าจะสนทนาเป็นการส่วนตัวได้

- โปรแกรมที่มีการเชื่อมต่อกับ Server หลักอย่างเดียว ได้แก่โปรแกรม ICQ, MSN, Yahoo Messenger ฯลฯ คือผู้ใช้งานต้องเปิดโปรแกรมขึ้นมาเพื่อให้ตัวโปรแกรม

Connect เข้ากับตัว Server Main เพื่อเป็นตัวกลางในการสื่อสารกับ ผู้ใช้งานคนอื่น ผู้ใช้ต้อง Add ชื่อของผู้ใช้งานคนอื่นที่ตนเองสนใจเข้าไปถึงจะใช้งานได้

ภัยที่เกิดขึ้นในยุคนี้ได้แก่ การ Hacking ข้อมูลระหว่างกัน, การล่อลวงผู้ใช้โปรแกรมไปกระทำชำเรา หรือกระทำอนาจารทางเพศ, การขายบริการทางเพศ

ยุคที่สาม

ยุค ของภาพและเสียง เนื่องจากยุคนี้มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีโครงข่ายข้อมูล มีการพัฒนาอุปกรณ์สื่อสัญญาณให้สามารถส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น เช่น ADSL, ISDN, ATM เมื่อ มีการพัฒนาให้สามารถส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น การส่งข้อมูลจึงสามารถส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นตาม จึงเป็นที่มีของการพัฒนาโปรแกรมทางภาพ และเสียงขึ้นมา เช่นโปรแกรม Camflog, Msn V.9 ขึ้นไป, Yahoo Messenger, Skype ฯลฯ เราสามารถจัดประเภทในการเชื่อมต่อได้ดังนี้

- โปรแกรมที่สามารถมี Server อิสระได้ ได้แก่โปรแกรม Camflog ซึ่งผู้ใช้งานสามารถตั้ง Server ขึ้น มาได้เอง และตั้งห้องขึ้นมาตามความสนใจของตัวเอง ผู้ใช้สามารถสนทนากันเป็นกลุ่มใหญ่ได้ หรือจะสนทนาเป็นการส่วนตัวก็ได้ และผู้ใช้งานยังสามารถเปิดเข้าไปดูหน้าตา ของผู้ใช้งานคนอื่นที่มีกล้อง VDO Webcam อยู่ได้อีกด้วย ในขณะเดียวกันก็ยังมี VJ ประจำห้องสามารถเป็นคนเปิดเพลงให้คนอื่นที่อยู่ในห้องฟังได้

- โปรแกรมที่ต้องมีการเชื่อมต่อกับ Server หลักอย่างเดียวได้แก่ โปรแกรม MSN, Yahoo Messenger, Skype ผู้ใช้สามารถมองเห็นหน้าตาของฝ่ายตรงข้ามเมื่อฝ่ายตรงข้ามได้ติดตั้งกล้อง VDO Webcam เอา ไว้ และยังสามารถสนทนาสื่อสารเสียงได้อีกด้วย ปัจจุบันพัฒนาได้ถึงขนาดสามารถสนทนากับโทรศัพท์ตามบ้าน หรือโทรศัพท์มือถือได้ โดยใช้เทคโนโลยี Voip

ภัยที่เกิดขึ้นในยุคนี้ได้แก่ การ Hack ข้อมูล, การแสดงภาพ และสื่อลามกอนาจาร, การขายบริการทางเพศ, การขายบริการโดยการแสดงภาพลามกอนาจาร รูปแบบการให้บริการแบบนี้สามารถนำไปเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีอื่นได้ โดยผู้ต้องการขายบริการแสดงภาพลามกอนาจารให้ผู้ต้องการดู ซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์ เพื่อจ่ายเงินแทนค่าบริการ

ภัย ที่เกิดขึ้นนี้นับวันมีการพัฒนาไปตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา และมีการพัฒนาช่องทางการก่อภัยขึ้น ตามช่องทางการตลาดของผู้ให้บริการเครือข่าย ที่มีอยู่ เราควรตระหนักถึงปัญหาของภัยที่เกิดขึ้น และให้ความสำคัญ ทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิด และหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้เป็นไปอย่างมีรูปธรรม